ตามรากศัพท์ของภาษาอังกฤษในยุคโบราณ จะเรียกว่า puduc ซึ่งแปลว่า ของที่มีรูปร่าง ลักษณะบวมเป่ง เต่งตึง ซึ่งตรงกับรูปลักษณ์ของเจ้าพุดดิ้ง ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงชื่อเรียก ซึ่งแปลจากภาษาอังกฤษในยุคกลาง คือ podding ที่ไปตรงกับลักษณะของไส้กรอกชนิดหนึ่ง จึงเรียกเป็นคำเดียวกัน คำนี้จะใช้เรียกประเภทอาหารที่ทำโดยการอบทุกชนิด
และคำปัจจุบันที่ใช้เรียกคือ pudding
ถัดจากนั้นมาจึงมีการคิดเมนูใหม่ ของอาหารที่ทำด้วยการอบหลายชนิด แต่ยังคงใช้คำว่า loaf ต่อท้ายในเมนูหลาย ๆ ๆ ชนิด ตัวอย่างเช่น rice-pudding, bread and butter pudding, black pudding, chocolate-pudding ฯลฯ และพุดดิ้งก็ยังใช้เป็นเมนูหลักไปจนถึง ของหวาน อีกด้วย
ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที ผู้คนเค้าก็เรียกว่า กันล่ะคับ แต่ว่าด้วยความผิดแผกของสำเนียง และการส่งต่อทางภาษาเอง ทำให้คำว่า pudding, pudding podding บ้าง และอีกหลาย นั้นเปลี่ยนแปลงไปเป็น คำ ๆ "พูริง (puring)" ซึ่งเป็นคำที่เรียกง่าย และตรงความหมายกับหน้าตาของพุดดิ้งที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน ซึ่งเป็นพุดดิ้งชนิดหนึ่งที่เรียกว่า custard-pudding
การแปล กรุณารอสักครู่..